Nico labo magazine กับคอลัมน์ Mothers Interview ครั้งนี้ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่งรอบด้าน พลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์ ที่ได้มาเล่าถึงเรื่องราวประสบการณ์การเลี้ยงลูกวัยกำลังซนอย่างน้องแพนเตอร์และพูม่า
Q : ทราบมาว่าก่อนหน้านี้ มีผลงานในวงการบันเทิงมาบ้าง
คุณแม่พลอย : ใช่ค่ะ เคยออกเทปค่ะ แล้วก็มีถ่ายโฆษณา ถ่ายมิวสิกวิดีโอ ถ้าออกเทปนี่นานมากแล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นงานโฆษณาก็มีถ่ายเรื่อยๆ แล้วตอนนี้ก็เป็นแอร์โฮสเตสด้วย ซึ่งก็ทำอาชีพนี้มา 5-6 ปีแล้ว ช่วงที่ท้องก็หยุดไปประมาณ 2 ปีกว่า ตอนนี้ก็กลับไปบินเหมือนเดิมแล้วค่ะ
Q : ตอนนี้น้อง 2 คน อายุเท่าไหร่กันบ้างแล้ว
คุณแม่พลอย : แพนเตอร์กำลังจะ 2 ขวบ ส่วนพูม่าก็ 10 เดือนค่ะ
Q : ความรู้สึกตอนตั้งครรภ์แพนเตอร์กับพูม่าเป็นอย่างไร มีวิธีการดูแลต่างกันหรือไม่
คุณแม่พลอย : ตื่นเต้นนะคะ เพราะว่ามันมีอีกหนึ่งชีวิตที่เราต้องดูแล ซึ่งเราต้องดูแลตั้งแต่ตอนท้อง พอคลอดออกมาก็ยิ่งเป็นอะไรที่ประคบประหงมมากกว่าเดิมอีก ตอนท้องแพนเตอร์จะประคบประหงมตัวเองดีมาก ไม่ค่อยกล้ากินอะไร และก็จะไม่ค่อยเดิน ไม่ค่อยวิ่ง ไม่ค่อยขึ้นบันได ประกอบกับเราแพ้ท้องด้วยก็จะเวียนหัว คลื่นไส้ ซึ่งตอนแรก ช่วงนั้นมีบิน (เป็นแอร์โฮสเตส) ก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเนื้องอกในสมอง แต่มันเวียนหัวแบบแปลกประหลาดมาก ตอนหลังก็เลยแบบเอ๊ะ…หรือว่าท้อง ก็ลองตรวจดูค่ะ เลยทราบว่าท้อง ตอนท้องก็จะเลือกกินอะไรที่ดี เพื่อพัฒนาพัฒนาการของลูก ให้ลูกเป็นเด็กฉลาด จะเปิดเพลงให้ลูกฟังเยอะด้วยค่ะ
พอท้องคนที่ 2 พูม่า คนนี้ไม่แพ้ท้องค่ะ แล้วเราเห็นคนอื่นที่ท้องเค้าทำอะไรได้เยอะมาก เคยไปเห็นแบบคนที่เค้าอยู่ข้างถนนท้องใหญ่มากแล้วก็ทำงาน หิ้วของหนัก เราก็เลยมาคิดว่าศักยภาพของคนท้องคือมันไม่จำเป็นว่าจะต้องไปนั่งอยู่เฉยๆ และก็เผอิญว่าต้องเลี้ยงลูกคนแรกด้วย พอคนที่ 2 ท้องก็เลยสบายๆ เพราะเรามีประสบการณ์การท้องจากลูกคนแรกแล้วด้วย ตอนนี้น้องก็แฮปปี้ดีค่ะ
Q : คุณแม่ผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติคะ
คุณแม่พลอย : ผ่าคลอดค่ะ เพราะว่าท้องแรกตอนก่อนจะคลอดมีอาการครรภ์เป็นพิษ คือเป็นความดันสูง เหมือนน้องเค้าอยากจะออกมาแล้ว ก็เลยต้องรีบผ่าคลอด ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ครบ 9 เดือนนะคะ ท้องได้ประมาณ 8 เดือนกว่า หลังจากคลอดเสร็จแพนเตอร์เค้าก็ต้องไปอยู่ในตู้อบสักพักนึง พอท้องแรกผ่า ท้องที่ 2 ก็เลยผ่าด้วยค่ะ แต่ว่าพูม่าโอเคค่ะ คลอดออกมาแข็งแรง ตัวใหญ่ ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
Q : ลักษณะนิสัยของนั้งทั้ง 2 ต่างกันหรือไม่ และพัฒนาการของน้องทั้ง 2 คนเป็นอย่างไรบ้าง
คุณแม่พลอย : ต่างค่ะ ต่างกันเยอะเลยค่ะ แพนเตอร์จะเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองเพราะว่าเราก็เลี้ยงเค้ามาแบบลูกคนเดียวมาสักพักนึงค่ะ ส่วนคือพูม่าเนี่ยเราต้องให้ความสนใจเค้าแบ่งออกเป็น 2 คน คือต้องให้พูม่าครึ่งนึงให้แพนเตอร์ครึ่งนึง เพราะฉะนั้นเค้าจะมาหวังให้เราโฟกัสกับเค้า 100% เหมือนตอนแพนเตอร์ไม่ได้ เค้าก็จะกลายเป็นเด็กเรียบง่าย ไม่ค่อยโวยวายเท่าไหร่ พูม่าเค้าจะพัฒนาการดีหน่อยเพราะว่าเค้าจะเห็นตัวอย่างพี่เยอะ เห็นพี่ปีน เห็นพี่เค้าทำอะไรเค้าก็จะทำตามเร็วหน่อยค่ะ
Q : น้องๆ ซนกันมากหรือไม่ คุณแม่มีวิธีจัดการอย่างไร
คุณแม่พลอย : แพนเตอร์เริ่มซนค่ะ แม่ก็จะไปอยู่ใกล้ๆ แล้วก็ปล่อยให้เค้าเล่นเอง แต่เราจะเตือนก่อนว่าทำแบบนี้แล้วเจ็บนะ ถ้าเค้าไม่เชื่อพอเล่นเองแล้วเจ็บตัวเค้าก็จะไม่เล่นต่อ ก็จะมีดุน้องบ้าง ประมาณว่าไม่ได้นะลูก พูดจากับคนโน้นคนนี้ไม่ดีไม่ได้นะ ซึ่งเด็กที่เริ่มสองขวบมาเค้าจะเริ่มจากคำว่าไม่ ไม่ทุกอย่าง ไม่เอา ไม่ได้ แบบนี้ไม่ใส่ ทุกอย่างไม่หมด เราก็ต้องบอกเค้าทุกอย่าง เอาอย่างนี้ถ้าบอกว่าไม่ใส่เสื้อ แต่ทุกคนออกจากบ้านใส่เสื้อหมด แพนเตอร์ไม่ใส่เสื้อแพนเตอร์ก็ต้องอยู่บ้าน เค้าก็จะโอเคๆ เวลาเค้าพูดกับคนอื่นว่าไม่เอา ไม่ให้ เราก็เตือนเค้า แพนเตอร์ไม่เอานะลูก เราเป็นเด็กดี จะสอนเยอะมากค่ะ
Q : มีวางแผนเรื่องเรียนของน้องอย่างไรบ้าง
คุณแม่พลอย : มีวางแผนไว้แล้วค่ะ ตอนนี้เพึ่งไปสมัคร Nursery ตรงซอยเอกมัย 10 ค่ะ เป็นโรงเรียนอนุบาลอินเตอร์ ก็ตอนนี้ให้เรียน Nursery ก่อน โตขึ้นหน่อยจะให้ย้ายเข้าโรงเรียนทอสี แล้วก็จะให้เรียนโรงเรียนไทยไปก่อนจนถึง ป.5-ป.6 แล้วค่อยย้ายกลับมาอินเตอร์ค่ะ อยากให้เค้าได้ภาษาไทย ให้ได้วัฒนธรรมไทย มารยาทไทย แล้วโรงเรียนทอสีเป็นโรงเรียนวิถีพุทธ คือเค้าจะสอนให้เด็กเป็นคนดี ให้ทุกคนเดินทางสายกลางหรืออะไรแบบนี้ ก็จะทำให้ลูกเราเป็นคนแบบจิตใจดี ใจเย็น รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ
Q : ตอนนี้ก็เป็นทั้งแอร์โฮสเตส รับงานพิธีกรด้วย มีธุรกิจส่วนตัวด้วย แล้วจัดสรรเวลาเลี้ยงน้องอย่างไรบ้าง
คุณแม่พลอย : ก็อุ้มลูกไปด้วย แล้วก็คุยงานไปด้วยค่ะ แล้วก็มีพี่เลี้ยง ถ้าวันไหนมีบินก็จะมีพี่เลี้ยง คุณตาคุณยายช่วยเลี้ยง พี่ญาติ เพื่อนๆ เค้าจะมานอนค้างเป็นเพื่อนน้องๆ ให้ค่ะ
Q : ตอนนี้มีทำธุรกิจส่วนตัวอะไรบ้าง
คุณแม่พลอย : ก็มี Baby Panther ออยทาตัวและยากันยุงสำหรับเด็ก เป็นออแกนิคทั้งหมด มีตัว Bunny White Collagen นำเข้ามาจากมาจากประเทศญี่ปุ่น แล้วก็มีตัวเค้กที่นำเข้ามาจากอเมริกา สามารถเก็บได้ 1 ปี เป็น all natural handmade, gluten free มี trans fat free เป็น frozen cake ชื่อ Buvette รสชาติดีมาก แล้วก็มีร้านพิซซ่าด้วยค่ะ ชื่อร้าน Alice’s Pizza อยู่ซอยศูนย์วิจัย แล้วก็ตอนนี้เพิ่งทำ food truck คันแรกเสร็จ แล้วอนาคตจะเปิดขายแฟรนไชส์ค่ะ
ต้องขอชื่นชมมากๆ สำหรับคุณแม่คนเก่ง ที่ทั้งเลี้ยงลูก ทำงานประจำ ดูแลธุรกิจส่วนตัว และยังรับงานอื่นๆ เพิ่มอีก ทาง Nico Labo Magazine ก็ขอขอบคุณสำหรับการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ และฝากติดตามผลงานต่างๆ ของคุณแม่คนเก่ง คุณพลอย พลอยพรรณ ทวีรัตน์ กันด้วยนะคะ
Buvette ขนมเค้กสุดอร่อย
www.instagram.com/buvettethailand/
Alice’s Pizza พิซซ่าหลายรส หลากสไตล์สุดอร่อย
www.instagram.com/alicespizza/
Baby Panther Products
www.instagram.com/babypantherproducts/
Bunny White Collagen